วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หลวงปู่บัว ถามโก และวัดศรีบุรพาราม


............. วัดศรีบูรพาราม หรือ วัดเกาะตะเคียน หมู่ 1 ต.วังกะแจะ อ.เมือง จ.ตราด เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าเลื่อมใสในดินแดนภาคตะวันออกของประเทศไทย หากเอ่ยชื่อวัดในภาคอื่น ๆ น้อยคนนักที่จะเคยได้ยินชื่อหรือรู้จัก แต่หากเป็นคนพื้นเพใกล้เคียง แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านล้วนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ใน “ของดี” ของวัดแห่งนี้เลื่องลือไปทั่วแดนตะวันออกเดิมวัดศรีบูรพารามเป็นสำนักสงฆ์เล็ก   ๆ    มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาอยู่เพียง ไม่กี่รูป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2500   มีญาติโยมและชาวบ้านที่ศรัทธา    บริจาคทุนทรัพย์ก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมาใช้ชื่อว่า “วัดเกาะตะเคียน” ทำการฝังลูกนิมิตเมื่อปี พ.ศ. 2524 และมีการพัฒนาเรื่อยมาจนเปลี่ยนชื่อเป็น “  วัดศรีบูรพาราม  ” จวบจนปัจจุบัน

วัดแห่งนี้มีเจ้าอาวาสรูปแรกและรูปปัจจุบันคือ พระครูสังฆกิจบูรพา หรือ พระอาจารย์บัว อายุ 86 ปี เดิมนั้นท่านชื่อ บัว มารศวารี เกิดวันเสาร์เดือน 5 ปีขาล ตรงกับขึ้น 13 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ. 2469 เป็นบุตรของ นายเชี๋ยและนางเตี่ยน ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 3 ต.วังกะแจะ อ.เมือง จ.ตราด ตั้งแต่วัยหนุ่มท่านชอบศึกษาความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพรและเชี่ยวชาญด้านช่างไม้   ช่างปูน ช่างปั้น จวบจนอายุครบ 23 ปี ก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบุบผาราม ต.วังกะแจะ โดยมีพระครูคุณวุฒิพิเศษ แห่งวัดบุบผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูวัตรรัตนวงษ์สิทธิ์ แห่งวัดหนองบัว เป็นพระกรรมวาจาจารย์   ได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมเรื่อยมา จนใน พ.ศ. 2505    ก็ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะตะเคียน  พ.ศ. 2508 สอบได้ชั้นนักธรรมเอก และ พ.ศ. 2513 เลื่อนสมณศักดิ์เป็น  พระครูสังฆกิจบูรพา ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลวังกะแจะ


“สมัยก่อนการศึกษาด้านภาษาบาลียังไม่แพร่หลายมากนัก ขาดครูผู้สอน อาตมาจึงหันไปศึกษาวิชาความรู้ต่าง ๆ รวมทั้งคาถาอาคมจากพระครูคุณวุฒิพิเศษ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์และผู้เคารพนับถือ โดยเฉพาะวิชาหัวใจ 108 ทำให้รู้ถึงขั้นตอนและกรรมวิธีการทำน้ำมันงา ที่มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพัน อาศัยเรียนกับโยมชื่อ นายเสียง เป็นคนหมู่บ้านหนองโพง ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องหนังเหนียว ปืนยิงไม่ออก มีดฟันไม่เข้า ทีแรกโยมพาลูกชายมาฝากไว้กับอาตมาที่วัดเพื่อให้เรียนวิชา แต่ลูกชายแกไม่สนใจ แกกลัววิชาจะสูญหาย  จึงถ่ายทอดให้อาตมาจนหมดไส้หมดพุง ก็ไม่คิดว่าจะได้นำมาใช้” พระครูสังฆกิจบูรพา หรือ พระอาจารย์บัว กล่าวด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยความเมตตา

 

 
 
 วันที่ 1 มิถุนายน 2555 เป็นกำหนดการงานวางศิลาฤกษ์อุโบสถ วัดนนทรีย์ ตำบลนนทรีย์ อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด คณะกรรมการได้ขออนุญาตหลวงปู่บัว เพื่อทำการสร้างวัตถุมงคล โดยให้มีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล เหรียญเสมาฉลุ ลอยองค์ รุ่น "บงกชบูรพา"  และ เหรียญรูปเตารีด รุ่น "เมตตามหาเศรษฐี" ซึ่งได้นิมนต์ พระครูสังฆกิจบูรพา หรือ หลวงปู่บัว ถามโก มาเป็นองค์ประธานอุปถัมย์

 



   

วัตถุประสงค์หลักคือ นำรายได้ทั้งหมด สร้างเป็นพระอุโบสถ วัดนนทรีย์ จำนวน 1 หลัง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างไปบางส่วน ยังไม่แล้วเสร็จ



แผ่นศิลา สร้างอุโบสถ วัดนนทรีย์




 หลวงปู่บัวประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถ และเป็นประธานจุดเทียนชัย      



ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ร่วมกับเจ้าอาวาสวัดนนทรีย์



จุดเทียนชัยนำฤกษ์อันเป็นมงคล



ใบขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น บงกชบูรพา




ร่างต้นแบบ ที่ผ่านความเห็นชอบจากหลวงปู่บัวแล้ว



                                                           
ลองพิมพเสมาฉลุ บงกชบูรพา


ราคาจองจากวัด และจำนวนที่จัดสร้าง



ลายมือร่างแบบ ที่ใช้จารลงในแผ่นทอง ม้วนใส่ไว้หลังเหรียญทุกเหรียญ
 
 
 
 

ลายมือหลวงปู่บัว ที่ใช้จารในแผ่นทอง

หลวงปู่ท่านได้เมตตาจารยันต์ อิสวาสุ แปลว่า หัวใจพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดย
อิ ย่อจาก อิติปิโสภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธฯลฯ พุทโธภะคะวาติ.
สวา ย่อจาก สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม ฯลฯ วิญญูหิติ
สุ ย่อจาก สุปฏิปันโน ภะคะวะโต ฯลฯ โลกัสสาติ
ท่านได้บอกว่าเหรียญเสมาฉลุรุ่นนี้มียันต์ครบอยู่แล้ว มีทั้งยันต์โสฬส ยันต์เฑาะ ยันต์นะชาลิติ

ผู้ที่นำไปใช้ มีแต่ความโชคดี มีความสุข ร่ำรวย



โชคดี ร่ำรวย ทุกท่านครับ




นอกจากตะกรุด โชคดี ร่ำรวยแล้ว ยังมีสุดยอดยันต์มหามงคลโสฬสที่ใช้กันในตำราพิชัยสงครามสมัยอยุธยา ประทับที่ด้านหลังของเหรียญอีกด้วย ยันต์โสฬสมงคลเป็นยันต์เลข 3 ชั้น ชั้นนอกลงด้วยเลข 16 ตัว ( โสฬสคำนี้แปลว่า 16 ชั้นฟ้า อันมีอินทร์ , พรหม , ยม ,นาค และพระคณาจารย์โบราณ จะกล่าวพรรณาถึงเมื่อเวลากระทำพิธีบวงสรวง ในการบูชาครูทุก ๆ ครั้ง ) ด้วยสูตรโสฬสรอบกลางลงด้วยเลข 12 ตัว ลงด้วยสูตรตรีนิสิงเห , รอบในลงด้วยเลข 6 ตัว , ลงด้วยสูตรจตุโร แล้วทำการลงอักขระเพื่อล้อมรอบยันต์ทั้ง 4 ด้านด้วยพระคาถาบารมี 30 ทัศน์

พระยันต์นี้แม้แต่สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ ผู้เจนจบในพระยันต์ร้อยแปด ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่ายันต์โสฬสมงคลเป็นยันต์อันวิเศษสุดกว่ายันต์ทั้งปวง พระองค์ได้นำไปประทับในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯ และเขียนสอดใส่ไว้ใต้หมอนหนุนศรีษะตลอดเวลา จนกระทั่งมรณะภาพเมื่อปี พ.ศ. 2487 จึงได้พบแผ่นยันต์นี้ >>>> เป็นสุดยอดมหายันต์ที่มีพุทธคุณครอบคลุมทุกอย่าง มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยก่อนนิยมเขียนลงบนผ้ายันต์และตะกรุดเพิ่อออกศึกสงคราม และได้ใช้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้


มวลสารสำคัญที่ใช้ติดด้านหลัง รูปเหมือนหลวงปู่ทุกองค์ สุดยอดมาก


ชนวนกริ่งมงคลมหาเศรษฐี ที่นำมาติดด้านหลังเหรียญทุกเนื้อ
ฉนวนกริ่งมงคลมหาเศรษฐีและมวลสารว่านต่างๆ ที่หลวงปู่มอบให้ หลอมเป็นเม็ดและนำมาติดด้านหลังองค์พระทุกองค์


ตำแหน่งที่ติดชนวนกริ่งมงคลมหาเศรษฐี มีทุกองค์ ทุกเนื้อ




การลงยาที่องค์พระ เนื้อเงิน

การลงยาที่องค์พระเนื้อนวะ   จะใช้สีเหลืองที่เข้มกว่าเนื้อเงิน       และทองระฆัง


ภาพเหรียญเนื้อต่าง ๆ ที่จัดสร้าง 





 


การรันหมายเลขเหรียญเสมาฉลุ บงกชบูรพา ทองระฆังลงยา
ไล่จาก สีเขียว สีม่วง สีแดง ครับ

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
หมายเลข     1 -    199    เป็นสีเขียว
หมายเลข 200 -    949    เป็นสีม่วง
หมายเลข 950 - 1,699    เป็นสีแดง

 
รูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ แต่งเติมด้วยลายไทยโบราณลายประจำยามและกนกลายไทย ได้มิติผสมผสานสรรค์สร้างงานร่วมกับเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยของแพรนด้า จิวเวอร์รี่ ออกมาเป็นผลงานที่ล้ำค่า คู่ควรแก่การครอบครอง  
      





ชุดกรรมการ




 










เหรียญเนื้ออื่น ๆ เข้าชมตามภาพในลิงค์ข้างล่างนี้ครับ




 

ภาพพิธีปลุกเสก เหรียญ รุ่น บงกชบูรพา 




ทำพิธีปลุกเสกในโบสถ วัดศรีบูรพาราม ครั้งที่ 1
วันที่ 31 พฤษภาคม 2555
หลวงปู่บัว เมตตาอธิฐานจิตเดี่ยวในอุโบสถ วัดศรีบูรพาราม
พิธีเข้มขลัง อัดพลังเข้มข้น



ทำพิธีนังปรกปลุกเสกอีกครั้ง ที่วัดนนทรีย์ ครั้งที่ 2       
วันที่ 1 มิถุนายน 2555

ขณะกำลังทำพิธี


ภายในบริเวณพิธี


สวยงามมากครับ


ทำการเจิมรูปภาพที่ประกอบในพิธี



ประพรมน้ำพุทธมนต์



ข้อมูลส่วนผสมในเนื้อทองคำ สุดยอดมาก



เทียบความสวยงาม เนื้อทองคำ กับเนื้อทองระฆัง
ใกล้เคียงกันมากครับ        







 
รูปหล่อโบราณ รุ่น " เมตตามหาเศรษฐี "

รับพระได้หลังวันออกพรรษาครับ เพราะหลังจากปลุกเสกในวันที่ 1 มิ.ย.2555 เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่บัว จะนำพระไปปลุกเสกต่อในอุโบสถ์ วัดเกาะตะเคียนอีก 1 ไตรมาส เท่ากับพระรุ่นนี้ผ่านการปลุกเสกจำนวน 2 ครั้ง และเป็นการปลุกเสกในช่วงเข้าพรรษายาวถึง 1 ไตรมาส


ที่มา :




ภาพพิธีเททอง แบบหล่อโบราณ " เมตตามหาเศรษฐี "

ปลุกเสกวันที่เททองหล่อพระ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2554

พิธีเททอง รูปหล่อโบราณ รุ่น เมตตามหาเศรษฐี




ท่องแท่ง 100 % จำนวนมาก



เม็ดเงินบริสุทธิ์ 100 %



หลวงปู่บัว เทมวลสารเม็ดเงินเตรียมเทลงเบ้าหลอม



กำกับพิธีแบบใกล้ชิดตลอดเวลา





เททองเข้าเบ้าหลอม

เนื้อทองคำ หลังทุบเบ้าหลอมออก สวยงามมาก





พิธีเทแบบหล่อโบราณ





แบบช่อ หลังทุบเบ้าหลอมออก



ขนาดของรูปหล่อโบราณ เมตตามหาเศรษฐี องค์กลางครับ








พิเศษสุด

วัตถุมงคลที่แจกในงาน จะเป็นองค์พระหลวงปู่ที่อยู่ตรงกลาง หล่อตัน เนื้อบรอนซ์นอก
เหรียญแจกทาน สำหรับผู้ช่วยงาน
และผู้เข้าร่วมพิธีเท่านั้น สวยสุดยอด




       


วัตถุประสงค์ของผู้จัดสร้าง ตั้งใจจะทำขึ้นมาเพื่อแจกทุกท่านที่มาร่วมงาน โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อต้องการให้ทุกท่านที่ศรัทธาหลวงปู่บัว ถึงแม้มาจะมีสตางค์ไม่มาก ก็ได้มีของดีไว้ใช้ โดยที่ไม่ต้องเสียสตางค์ โดยเหรียญที่จัดทำขึ้นมาจะเป็นเนื้อบรอนซ์นอก จำนวนการสร้าง 999 เหรียญ เหรียญที่ออกมานั้นสวยงาม เนื่องจากใช้โรงงานแพรนด้า ในการผลิต เป็นโรงงานเดียวกับที่ผลิตเหรียญเสมาฉลุ ต้นทุนของเหรียญที่แจกนั้นค่อนข้างสูงประมาณ 200 บาท จึงอยากให้ผู้ที่ได้รับแจกเก็บไว้ใช้ เพราะเป็นเหรียญที่ผู้จัดสร้างตั้งใจทำไม่แพ้เหรียญเสมาฉลุบงกชบูรพา หลังจากที่แจกในงานแล้วยังเหลือเหรียญอีกประมาณ 300 เหรียญ แจกไปยังศูนย์ต่าง ๆ ศูนย์ละประมาณ 10-20 องค์ เพื่อจะได้กระจายต่อไป ทุกเหรียญมีการตอกหมายเลขชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการทำเพิ่มเสริมภายหลัง

 


 

 ...... ขอให้ทุกท่านโชคดี ได้เหรียญสวยไว้ครอบครองครับ .....
 
                                                                                                             

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น